vontour

ท่องเที่ยวเวียดนามกลาง … ตามสไตล์วีออนทัวร์

และแล้วก็มาถึงทริปสั้นๆเดินทางง่ายไม่เกิน 2 ชั่วโมงจากประเทศไทย นั่นคือ เวียดนาม ซึ่งครั้งนี้เราจะไปเที่ยวกันที่เวียดนามกลาง ประกอบด้วยเมืองดานัง ฮอยอัน เว้ โดยแต่ละเมืองมีความสวยงามและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป จะเป็นยังไงบ้างนั้น อ่านตามกันไปเลยค่ะ

เราออกจากสุรรณภูมิประมาณเที่ยงกว่าๆด้วยสายการบินของไทย ลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติดานัง ประมาณบ่ายสองโมงเศษๆ พอมาถึงเราตื่นตาตื่นใจกับสนามบินแห่งนี้ไม่น้อย เพราะใหญ่และดูทันสมัยกว่าที่เราคิด สมแล้วที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศเวียดนาม

vontour

vontour

vontour

วันแรกของการเดินทาง เนื่องจากเรามาถึงค่อนข้างเย็นแล้ว ดังนั้นเราจึงแวะตรงเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อน โดยโรงแรมที่เราเลือกพักคือ โรงแรม Mikazuki Japanese Resorts & Spa ซึ่งเจ้าของโรงแรมเป็นคนญี่ปุ่นและเข้ามาสร้างโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นไว้ในเมืองที่ดานังแห่งนี้ ภายในโรงแรมมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งและในร่มขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีที่แช่ออนเซ็นสำหรับผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้ด้วย

vontour

vontour

vontour

ช่วงค่ำหลังจากที่เราได้พักผ่อนกับการแช่ออนเซ็น เล่นน้ำจากที่สระน้ำชั้นบนสุดของโรงแรมซึ่งวิวดีมากๆ ก็ได้เวลาทานข้าวเย็น และออกไปถ่ายรูป คาร์ฟดาร์ก้อน (Ca Chep Hoa Rong) สัตว์เก่าแก่ตามคำเล่าลือในนิทานปรัมปราของเวียตนาม ตัวเป็นปลาหัวเป็นมังกร ที่กลายมาเป็น Mascot ของเมืองดานังและกลายเป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตของเมืองเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นถ่ายรูปกับ สะพานมังกร บริเวณริมแม่น้ำฮัน ยามค่ำคืนกัน อยากบอกว่าที่นี่คึกคักมาก นักท่องเที่ยวเบียดเสียดกันสุดๆเพื่อให้ได้ภาพมังกรทั้งตัว ดังนั้นหากใครได้ไปที่นี่ ก็ระมัดระวังตัวให้ดีน้า ทั้งเรื่องกระเป๋าตังค์ เรื่องการใส่หน้ากาก

vontour

vontour

ตื่นเช้ามากับวันที่ 2 ของการเดินทาง วันนี้เรามีแพลน คือ เที่ยวในตัวเมืองดานังช่วงเช้าก่อน โดยเริ่มต้นจาก Cong Vien Apec ซึ่งตั้งอยู่ในสวนสาธารณะริมแม่น้ำฮัน โดยเป็นสถาปัตยกรรม โดม Cánh Diều Bay Cao ทำจากเหล็กโค้งคล้ายคลื่นทะเลสูงขนาด 790 ตร.ม. หากใครชอบถ่ายรูป บอกเลยหามุมชิคๆชิวๆถ่ายรูปได้หลายมุมทีเดียว

vontour

จากนั้นแวะถ่ายรูปกับหาดทรายขาวริมเมืองดานัง และเรือกระด้งที่ลอยเต็มบริเวณ อาจจะดูเกลื่อนไปหมดแต่บอกเลยคูลใช้ได้นะจ๊ะ

vontour

อากาศที่เวียดนามในช่วงที่เราไปนั้นร้อนเอาเรื่อง เพราะจะมีฝนตกสลับแดดจ้า แต่ก็นั้นแหล่ะยังเป็นความโชคดีของพวกเราที่ฝนยังไม่ตก ดังนั้นอากาศจึงร้อนอบอ้าวเอาเรื่องเลย เวลาตอนนี้ 11โมงเช้า เราออกเดินทางไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่วัดหลินอึ๋ง สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 200 เมตร ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 10 กิโลเมตร โดยความพิเศษที่นี่คือ เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่มาก โดยมีความสูงถึง 67 เมตร หรือประมาณเท่ากับตึก 30 ชั้น ไหว้ขอพรเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปบานาฮิลล์กันต่อในช่วงบ่าย

vontour

vontour

การเดินทางมาบาน่าฮิลล์จากตัวเมืองดานัง ระยะทางประมาณ 43 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 40-50 นาที เพื่อมาถึงสถานีกระเช้าไฟฟ้า จากนั้นขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังบาน่าฮิลล์อีกประมาณ 45 – 60 นาที แล้วแต่จะขึ้นด้วยกระเช้าสายไหนจากทั้งหมด 4 สาย ซึ่งของพวกเรานั้นพักบนบาน่าฮิลล์เลย ทำให้สามารถขึ้นไปที่พักรวดเดียวจากสถานนีด้านล่างได้เลย ที่พักของเราคืนนี้ คือ Mercure Danang French Village เราจองที่พักพร้อมอาหารเย็นซึ่งเป็นบัฟเฟ่ต์นานาชาติ ด้านบนนาน่าฮิลล์อาการเย็นตลอดทั้งปี แม้ช่วงเราไปอากาศในตัวเมืองจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม แต่บนบาน่าฮิลล์บอกเลยอากาศเย็นสบาย มีเมฆหมอกลอยไปมาตลอดเวลา ถือว่าชิวๆเลยค่ะ

vontour

vontour

การก่อสร้างบาน่าฮิลล์นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 แต่เดิมเคยเป็นเมืองตากอากาศของเวียดนามตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ก่อนที่จะถูกทิ้งร้างและได้รับการปรับโฉมให้กลับมาสวยงามและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อเดินทางขึ้นมาถึงบนบาน่าฮิลล์ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะราวกับหลงเข้าไปในเทพนิยายมาก ยุโรปสุดๆ และที่สุดๆไปกว่านั้นด้วย คือ คนมหาศาล!!! เนื่องจากมาที่นี่คนเวียดนามเองก็เที่ยวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามการที่เราพักบนบาน่าฮิลล์ ทำให้เราจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่นเพื่อถ่ายรูปแบบคนน้อยหน่อยในช่วงเย็นหลังห้าโมงเย็นและช่วงเช้าก่อนที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆจะขึ้นเขามาเที่ยว โดยกิจกรรมที่ทำบนบาน่าฮิลล์สำหรับพวกเรานั้นมีมากมาย ได้แก่ ถ่ายรูป ถ่ายรูป ถ่ายรูป ฮ่าๆๆๆ ก็มันสวยนี่หน่า … จริงๆแล้วมีกิจกรรมมากมาย เริ่มจากถ่ายรูปบริเวณอาคารต่างๆ ตามซอกหลืบ ทั้งช่วงมีแสงแดดและช่วงกลางคืน (สำหรับเราแล้วชอบกลางคืนมากกว่า เพราะแสงไฟเหลืองกระทบตึกแล้วสวยมีเสน่ห์เกิ้น)

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

กิจกรรมถัดไปคือขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อลงมาจุดถ่ายรูปที่สะพานลอยฟ้าโกลเด้น (Golden Bridge) (The Hands of God) ซึ่งมีรูปปั้นมือยักษ์ที่ยกสะพานไว้ ที่นี้จัดเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและถูกสร้างขึ้นริมหน้าผาบนสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,400 เมตร หากใครมาบาน่าฮิลล์แล้ว ไม่มาถ่ายรูปที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ

vontour

เลยสุดสะพาน Golden Bridge ไปหน่อยสามารถเดินไปดูสวนดอกไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงาม รวมถึงแวะสักการะพระใหญ่บนเขาได้ด้วย

vontour

vontour

กิจกรรมถัดไป เอาใจวัยรุ่นอย่างพวกเรา คือ เข้าสวนสนุก โดยเครื่องเล่นที่แนะนำให้เล่นคือ รถไฟเหาะ Alpine Coaster ค่าเล่นไม่เสียเพิ่มเพราะรวมในค่าที่พักและค่ากระเช้าไฟฟ้าเรียบร้อย ดังนั้นเล่นได้ไม่จำกัดเที่ยวนะจ๊ะ แต่ๆๆ บอกได้เลยว่ารอคิวนานมาก ครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ดังนั้นวางแผนการเล่นให้ดีนะจ๊ะทุกคน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ ได้แก่ Tower Drop อันนี้ต้องใจกล้าหน่อย รถบั้ม walk with Dinosaurs ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ สำหรับเราแล้วเล่นแค่ Alpine Coaster ก็หมดเวลาแล้วจ๊ะ เพราะคิวยาว แต่ก็ถือว่าคุ้มนะกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้ลองทำ

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

วันที่สามเดินทางลงจากบานาฮิลล์ประมาณเที่ยง เพื่อได้ใช้เวลาช่วงเช้าถ่ายรูปแบบมีแสงแดดอย่างเต็มที่ ช่วงบ่ายเราเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองเว้ เมืองที่ได้ขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ยิ่งทำให้ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเลยใช่ไหมค่ะ โดยจุดแรกที่แวะคือ หมู่บ้านธูป แวะถ่ายรูปและสัมผัสวิถีการผลิตธูปหอมแบบดั้งเดิม สีสันของธูปสวยงามมากถ่ายรูปแล้วรับรองว่าประทับใจค่ะ

vontour

จุดที่สอง คือ เจดีย์วัดเทียนมู่ (Thien Mu Pagoda) วัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองของเวียดนามในยุคหลัง และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของเว้ วัดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนานิกายเซน ซึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงทั้งหมด 7 ชั้น และไฮไลท์สำคัญคือ รถออสตินสีฟ้า ที่มีประวัติว่าในปี พ.ศ. 2506 พระภิกษุทิกกวางหยก วัย 73 ปี เจ้าอาวาสวัดเทียนมู่ได้ใช้รถคันนี้เป็นพาหนะไปเผาตัวเองที่กลางกรุงไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ซิตี้ในปัจจุบันเพื่อเป็นการประท้วงรัฐบาลโงดินห์เดียมที่มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงและบังคับให้ประชาชนนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกและใช้ความรุนแรง หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง รถออสตินคันสีฟ้าคันนี้จึงถูกนำมาเก็บไว้ในสถูปทองคำวัดเทียนมู่จนถึงปัจจุบัน

vontour

vontour

vontour

vontour

หลังจากเที่ยวชมวัดเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปรู้จักเมืองเว้เพิ่มขึ้นจากการล่องแม่น้ำหอม เพื่อชมทิวทัศน์ริมน้ำและวิถีชีวิตยามค่ำคืน พร้อมกับชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านที่เคยเล่นถวายแก่จักรพรรดิเมื่อครั้นอดีต

vontour

vontour

ค่ำคืนนี้ยาวนานยิ่งนัก ตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อนกันแล้ว เราเลือกพัก ใจกลางเมืองเพื่อสะดวกในการเดินทางของพวกเรา พอหัวถึงหมอน พวกเราก็ปิดสวิสท์ทันที …. ฝันดีนะจ๊ะสำหรับคืนสุดท้ายที่เวียดนาม

เช้าวันที่สี่ของการเดิน เราวางแผนไปพระราชวังไดนอย (Imperial City) ซึ่งเป็นวังเก่าแก่สวยงามสร้างขึ้นตามความเชื่อแบบจีน แต่เราเดินทางไปแบบไม่ธรรมดา นั้นคือ นั่งรถสามล้อซิโคล่ เอกลักษณ์ของเวียดนาม ระหว่างทางก็ได้ชมเมืองไปด้วยจนถึงพระราชวังไดนอย เราถ่ายรูปและเดินชมพระราชวัง แต่เสียดายที่ด้านในปิดซ่อม จึงมีแต่ภาพด้านหน้ามาให้ดูนะจ๊ะ

vontour

vontour

vontour

หลังจากนั้นช่วงบ่าย เราตีรถลงใต้ยาวๆมา เพื่อมานั่งเรือกระด้งที่หมู่บ้านกั๊มทาน ซึ่งหมู่บ้านเล็กๆกลางสวนมะพร้าวริมน้ำ ประสบการณ์ในการนั่งเรือกระด้งนี้บอกเลยค่ะ แปลกใหม่ เร้าใจ (แต่กลิ่นน้ำเนี่ยใกล้เคียงกลิ่นน้ำคลองบ้านเรามาก) ชมการแสดงหมุนเรือของชาวบ้าน และการร้องเพลงสนุกๆตามสัญชาติของนักท่องเที่ยวจากเวทีกลางแม่น้ำ สำหรับนักท่องเที่ยวไทย… ให้ทายนะคะว่าเค้าร้องเพลงอะไร 1 2 3 เฉลยค่ะ.. เพลงขอใจแลกเบอร์โทร >.<

vontour

vontour

จากนั้นแพลนเที่ยวสุดท้ายของทริปเรา เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกแห่งของเวียดนาม คือ เมืองฮอยอัน อดีตเมืองท่าที่สำคัญที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ 300 กว่าปีก่อน เมืองนี้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ไม่แพ้บาน่าฮิลล์เลย เอกลักษณ์ของเมืองนี้คือ สีเหลืองที่ใช้ทาอาคารบ้านเรือน กับโคมไฟที่ห้อยประดับตกแต่งตามทางเดิน บอกเลยค่ะเมืองนี้มีเสน่ห์เอามากๆ เราเดินมาดูบ้านโบราณที่ผสมผสานวัฒนธรรมจีน ญี่ปุ่นและเวียดนามรวมกัน ชมศาลเจ้าของชาวจีน ชมสะพานญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นโดยชุมชนชาวญี่ปุ่น และแวะจิบเมนูน้ำเย็นชื่นใจจากร้านดังของที่นี้ นั่นคือ MOT เมนูน้ำดอกบัว ร้านนี้คิวยาวสุดๆ แต่พวกเราโชคดีหน่อยค่ะ รอไม่นานมาก รสชาติก็จะออกแนวสมุนไพรนิดนึง หากใครชอบทานน้ำขิง ข่า ตะไคร้ รับรองต้องชอบน้ำดอกบัวนี้ค่ะ

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

vontour

หลังจากท่องเที่ยวกันจนจุใจแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับบ้านแล้วค่ะ ต้องบอกว่าทริปนี้สนุกเกินคาด ได้รูปสวยๆชิคๆ เยอะเลยทีเดียว ใครไม่รู้ว่าจะเดินทางไปไหนแบบใกล้ๆ สบายกระเป๋า ชอบท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แนะนำเลยค่ะ เวียดนามกลาง ดานัง ฮอยอัน เว้ ไม่ทำให้เพื่อนๆผิดหวังแน่นอน 😊 สำหรับทริปนี้เราขอลาไปก่อนนะคะ ไว้มีทริปใหม่ๆดีดี จะมานำเสนอต่อไป รอติดตามกันนะค้า …..  รายงานโดย กระต่ายน้อยออนทัวร์

แชร์โฟสนี้