• สายบุญพาเที่ยว วัดดัง แห่ง ภาคใต้ เมืองนครศรีธรรมราช 
  • ทำบุญช่อฟ้า และ สรงน้ำพระ พระพุทธสิหิงค์ วัดอินทคีรี
  • วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร – พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
  • สายมู ห้ามพลาด ขอโชคลาภ จากวัดยางใหญ่ และ วัดเจดีย์ ไอ้ไข่
  • จุดเช็คอินใหม่ เขาช้างสี    – กินปูกันที่ท่าศาลา
  • อาจารย์กอล์ฟเล่าเรื่องให้เราฟังตลอดการเดินทาง
รหัส 067-3626
วันที่เดินทาง
เม.ย.66
ช่วงเวลา
4 วัน 3 คืน
ราคาเริ่มต้น
7,999 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพฯ - นครศรีธรรมราช

04.30 น. : จุดที่ 1. คณะพร้อมกันที่จุดนัดพบ  ป้ายรถเมล์ ตรงข้ามห้างตั้งฮั้วเส็ง ถ.สิริธร (ฝั่งขาเข้า กทม.)

05.00 น. : จุดที่ 2. คณะพร้อมกันที่จุดนัดพบ ปั้ม ปตท.วิภาวดี ตรงข้าม ม.หอการค้า

06.00 น. : จุดที่ 3. คณะพร้อมกันที่จุดนัดพบ โลตัส พระราม 2. (ฝั่งขาออก กทม.) พร้อมแล้วนำท่านออกเดินทางระหว่างทางอาจารย์จะเล่าเรื่องให้เล่าฟัง

07.30 น. : แวะรับประทานอาหารเช้า ณ ร้านช้อนทอง แยกวังมะนาว อิสระตามอัธยาศัย

08.20 น. : นำท่านออกเดินทาง นั่งรถยาว ปลายทาง เมืองนครศรีธรรมราช  ระหว่างทาง อาจารย์ มีเรื่องเล่าให้เรา  ฟัง สาระสำคัญเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้ง สร้างความบันเทิง เล่นเกมส์ สนุก ตลอดการเดินทาง เพลิดเพลิน ซึ่งเป็นการเดินทางไม่น่าเบื่อ

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง ระหว่างทาง ณ ร้านอาหาร

(มื้อที่ 1.) หลังอาหารนำท่านเดินทางต่อ  ระหว่างนี้ให้ท่านได้พักสายตา  งีบหลับกันสัก 1 ชั่วโมง  รถแวะจอดตามจุดพักรถ ให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถ

หลังจากที่ได้หงีบหลับพักสายตา กันแล้ว  เรามาเล่นเกมส์ ลับสมองกัน

15.00 น. : เล่นเกมส์ลับสมอง นำโดยอาจารย์กลอ์ฟ

17.00 น. : เวลาโดยประมาณ นำท่านเดินทางถึงเมืองนครศรีธรรมราช  นำ

ท่านเข้าที่พักย่านใจกลางเมืองราคาประหยัด และสะดวกติดกับแหล่งช้อปปปิ้ง

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล

เย็น : ให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง ย่านถนนคนเดิน และอิสระอาหารเย็นกันตามอัธยาศัย

วันที่ 2
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร – พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน - เขาช้างสี - ท่าศาลา

06.00 น. : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก  (มื้อที่ 2.)

08.00 น. : พร้อมแล้วนำท่านออกเดินทาง  สายบุญพาเที่ยวทำบุญวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

08.30 น. : สายบุญพาเที่ยวทำบุญ นำโดยอาจารย์กอล์ฟ นำไหว้พระ และไหว้องค์พระธาตุ สักการะ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พระธาตุไร้เงา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ นั้น เป็นโบราณสถานสถานศักดิ์สิทธิ์ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองนครศรีธรรมราชค่ะ อีกทั้งยังเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกด้วย ซึ่งพระบรมธาตุเจดีย์นั้นเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ทำให้มีพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกมุมโลกแวะเวียนมาสักการะกัน อย่างไม่ขาดสาย

10.00 น. : จากนั้น สมควรกับเวลานำท่านเดินทางไปยัง วัดสวนขัน หลวงพ่อคล้าย

11.30 น.  เวลาโดยประมาณ นำท่านเดินทางถึงวัดสวนขัน ท่านพ่อคล้าย เทพเจ้าแดนใต้  พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ หรือ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เดิมชื่อ คล้าย เกิดเมื่อปี พ.ศ.2417 ที่บ้านโคกกระทือ ต.ช้างกลาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช  หลวงพ่อคล้าย เป็นพระสงฆ์ ที่เป็นหนึ่งในศูนย์รวมจิตใจ ของชาวใต้ เป็นเพทพเจ้าแห่งแดนใต้ ผู้คนให้ความเคารพนับถือ ในความศักดิ์สิทธิ์ แทบทุกบ้าน หนทาง มีรูปเคารพของท่าน และเมื่อพูดถึง พ่อท่านคล้าย ย่อมจะไม่พูดถึง เทพประจำตัวท่านเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นหนึ่งในตำนาน ที่เกี่ยวพันกับท่าน อย่างแยกไม่ได้   จากการค้นหาข้อมูลของ เทพ ประจำตัวของ หลวงพ่อคล้าย นั่นคือ พระอุเชนทร์ ซึ่งระบุไว้ว่า พระอุเชนทร์ เป็นเทพเจ้าประจำอ-เภอฉวางและประจำกรมช้างกลาง ทำด้วยหินทรายแดง เมื่อกรมช้างกลางถูกลดบทบาทลงโดยให้กรมการอำเภอฉวางจับช้างแทน ในอดีตนั้นเมืองนครศรีธรรมราช มีการจับช้างเพื่อส่งเข้าถวายงานในเมืองหลวง และบางเชือกส่งไปฝึกและขายไปยังต่างประเทศ ดังนั้น พระอุเชนทร์ จึงมีความสำคัญมาตั้งแต่อดีตกาล  ว่ากันว่า ท่านใดมีบุญได้มากราบพระอุเชนทร์คู่บารมีพ่อท่านคล้าย ท่านจะประสบสุขความเจริญ ขอสิ่งใดได้หวังตามปรารถนา เพราะท่านเป็นเทพแห่งการประทานพรและการประสพความสำเร็จ ในชีวิตการงาน การเงินครอบครัว โภคทรัพย์ป้องกันสิ่งไม่ดีได้

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 3.)  หลังอาหารนำท่านเดินทางไป ยัง ลานสกา

14.00 น. : นำท่านแวะเช็คอินแห่งใหม่ จุดพักสูดอากาศบริสุทธิ์เขาช้างสี อำเภอลานสกาKhao Chang Sri Resting Point For Refreshing  สถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ท่ามกลางธรรมชาติ รายล้อมด้วยภูเขา จัดตกแต่งสถานที่ด้วยรูปปั้นช้าง ผลไม้สีสันสดใส หอคอยสูงสามชั้นเชื่อมสองฝั่งคลองเพื่อชมทัศนียภาพ  ตั้งอยู่ ตำบล ลานสกา อำเภอ ลานสกา นครศรีธรรมราช ก่อนเข้าคีรีวง แวะสักหน่อย เพราะสีสันสดใสสะดุดตา เลยต้องเดินชม สีส้นของรูปปั้นผลไม้มากมาย และบันไดขึ้นไปชมวิวที่มีสะพานเชื่อมต่อกัน หวาดเสียวหน่อยๆ เพิ่งสร้างใหม่ๆ และกำลังสร้างเพิ่มเติมอีกเยอะเลย กำลังสร้างช้างตัวใหญ่มากมาย และมีมุมสวยๆให้เก็บภาพประทับใจ

15.00 น. : สมควรกับเวลานำท่านเดินทางย้อนกลับ ไปยังบ้านท่าศาลา   มาเที่ยวนครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่จะแวะเที่ยวอำเภอขนอม สิชล ลานสกา เมืองนคร ส่วน อำเภอท่าศาลา เป็นทางผ่านตลอด เห็นชื่ออำเภอนี้ในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองนครเสมอ ทั้งขาไปและขากลับ เพราะเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ระหว่างกลางของขนอม สิชล ไปยังอำเภอเมือง มาเที่ยวนครรอบนี้แวะไปนอนพักซัก 1 คืน ที่ ท่าศาลา อำเภอเล็กๆริมทะเล ที่หลายคนมองข้าม แต่มีของดีอยู่มากมาย ทั้งที่เที่ยว ที่พัก ร้านอาหารทะเลรสชาติดีโดยเฉพาะปูม้า ท่าศาลา ขึ้นชื่อในเรื่องความสด เนื้อแน่น ราคาไม่แพง  แวะมาท่าศาลา รับรองได้ความชิล ได้รูปสวย ได้ความอิ่ม กลับไปแน่นอน

ท่าศาลา อีกหนึ่งอำเภอน่าเที่ยว น่าพัก แห่งนครศรี ที่ไม่อยากให้แค่เป็นทางผ่าน แวะเข้ามาซักนิด มีมุมสวยให้แวะเที่ยว ถ่ายภาพ แวะ กิน หลายจุด ไม่แพ้อำเภอไหนในเมืองนคร 

16.00 น. : นำท่านเดินทางถึงบ้านศาลา ให้ท่านได้เดินเล่น สตรีทอาร์ท ท่าศาลา เติมสีสันแวะถ่ายรูป  Street Art ท่าศาลา มีภาพ Street Art แนวกราฟฟิตี้สีสันสดใสน่ารัก บอกเล่าเรื่องราว วิถีชีวิตของชุมชนชาวเลเก่าแก่ของชาวท่าศาลา แต่ละภาพมีเอกลักษณ์และได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ โดยวาดบนกำแพง และบ้านเรือน ตามตรอกซอกซอยต่างๆ บนถนนศรีท่าศาลา และถนนธุรการ ถนนสายเหลักของอำเภอ ใครผ่านไปมาต้องสะดุดตา เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดชิค ชวนให้แชะภาพ

จากนั้นนำท่าน แวะไปที่  แพเพชรปิยะ  แพขายปูม้าที่โด่งดังแห่งท่าศาลา เป็นแพปลาขนาดใหญ่มีเรือประมงของตัวเอง จับปูม้าส่งขายทั่วไทย ส่งทุกวัน เคยทานปูม้ามาหลายแห่งในเมืองไทย ปกติยกให้ปูม้าบางตะบูน คือ ที่สุดของความสด หวาน อร่อย ราคาไม่แพง แต่พอมาเจอปูม้าที่อำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช ที่ ยอมในความสด เนื้อแน่นมาก และราคาไม่แพง  ปูม้า ตัวเล็กโลละ 450 บาท ตัวใหญ่โลละ 550 บาท ปกติไซส์ใหญ่หากทานตามร้านอาหารกิโลละไม่ต่ำกว่า 700 บาท หรือจะสั่งแบบแกะแล้วครึ่งกิโล กล่องละ 220 บาท เย็น      รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านริมเลท่าศาลา(มื้อที่ 4.) มื้อนี้ ท่านใดไม่แพ้อาหารทะเล ก็จะรู้สึกขาดทุน ที่ต้องทานไข่เจียวและต้มจืดแทน  แต่อดไม่ได้จริงๆ ที่เรามาถึงถิ่น เราต้องได้กินปู กุ้ง ทะเล  สดๆ กับน้ำจิ้มซีฟูดส์รสจี๊ดจ๊าด   มาถึงท่าศาลา อำเภอริมทะเล ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเลที่สด อร่อย ราคาไม่แพง ต้องมองหาร้านอาหารทะเลอร่อย มื้อเย็นแวะมาที่ ริมเลซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อแห่งท่าศาลา ร้านตั้งอยู่ริมทะเล บรรยากาศแบบบ้านๆโอเพ่นแอร์   เมนู เด็ด คือ ต้มกะทิปูม้า จัดเนื้อปูแบบสดแน่น รสชาติหวานเค็มกลมกล่อม เพิ่มความหอมด้วยต้นหอม และหอมใหญ่ใบเล็บครุย คลุกเคล้าเข้ากับน้ำกะทิ อร่อยสุดๆ

19.00 น. : อิ่มแล้ว ตาปรือ  ง่วงนอนแล้ว  นำท่านเดินทางเข้าที่พัก

วันที่ 3
วัดยางใหญ่ – ทำบุญช่อฟ้า และ สรงน้ำพระ พระพุทธสิหิงค์ วัดอินทคีรี - วัดเขาขุนพนม – วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) - สิชล

06.00 น. : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก (มื้อที่ 5.)

08.00 น. : เช้าวันนี้ สดใสด้วยสีชมพู สดใส พร้อมออกเดินทางไปยังวัดยางใหญ่  สายมูมาเต็ม สายมูต้องแวะมาที่นี่ วัดยางใหญ่ หรือวัดตาพรานบุญ วัดพี่วัดน้องของวัดเจดีย์ไข่ วัดมีสี ชมพูสดใส มี ตาพรานบุญ อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวปักษ์ใต้ให้ความนับถือ เชื่อกันว่า ใครได้บูชา หรืออธิษฐาน มักจะได้โชคลาภ เงินทอง แคล้วคลาด มีกินมีใช้ ไม่ขัดสน เหมาะมากสำหรับคนที่ค้าขายแล้วอยากให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง  ที่วัดใช้สีชมพูนั้นมาจากตำนานของพญานาคราช ที่ชื่อว่า “ท้าวชมพูจิต” ที่พรานบุญ ได้เคยช่วยชีวิตเอาไว้  บริเวณรอบวัดตกแต่งด้วยสีชมพูสดใส ถัดจากศาลาตาพรานบุญ  คือ อุโบสถภายในทาสีชมพูตั้งองค์พระประธานสวยงาม มีหลวงพ่อยางใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ  รูปปั้นตาพรานบุญในท่านั่ง ตั้งโดดเด่นในศาลามองดูน่าเกรงขาม  สำหรับวิธีการไหว้ตาพรานบุญ ให้จุดธุปและไหว้ท้าวเวสสุวรรณก่อน หรือขอโชคลาภจากท้าวเวสสุวรรณ

จากนั้น ทำน่านเดินทางสู่วัดอินทคีรี  วัดอินทคีรี ตั้งอยู่ที่ บ้านนา หมู่ที่ ๖ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช จากรูปแบบทางศิลปะของแหล่งศิลปกรรมที่ปรากฏน่าจะอยู่ในพุทธศตวรรษที่ ๑๒ –๑๔ และต่อเนื่องมาในสมัยทางอยุธยา จากการพบพระพุทธรูปศิลปะภาคใต้ ภายในวัดอินทคีรี สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษ ที่ ๑๒ –๑๔ แหล่งศิลปกรรมวัดอินทคีรี ที่พบภายในวัด มีเมรุเผาศพ อุโบสถ กุฏิ หอพระ กระจัดกระจาย รอบบริเวณวัด  หลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่พบในวัดอินทคีรี ได้แก่  โยนิ ทำด้วยหินทรายสีแดง เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง ๘๐ x ๙๘ เซนติเมตร ตรงกลางมีการเจาะรูเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สำหรับการประดิษฐานศิวลึงค์ ด้านข้างมีการสลักยกเป็นขอบขึ้นมาสูงประมาณ ๒ เซนติเมตร สลักตลอดจนถึงร่องน้ำมนต์ ซึ่งมีขนาดยาว ๒๖ เซนติเมตร กว้าง ๒๔ เซนติเมตร โยนิ ชิ้นนี้ วางอยู่ข้างบ่อน้ำภายในวัดอินทคีรี  พระพุทธรูปประทับนั่ง ทำด้วยสำริด เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิ เพชรบนฐานทรงสูง เป็นศิลปภาคใต้ในสกุลช่างนครศรีธรรมราช เรียกว่า พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระขนมต้ม มีพระพักต์ ค่อนข้างกลม เป็นพระ คู่วัดมาช้านานตั้งแต่สมัยโบราณ ทางวัดอินทคีรี เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี    พระพุทธสิหิงค์ วัดอินทคีรี (วัดบ้านนา) พรหมคีรี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครศรีธรรมราช

และเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559  เวลา 01.00 น. วัดแห่งนี้ได้เกิดไฟไหม้อุโบสถ ออกข่าวใหญ่ทีวีทุกช่อง เพราะเป็นวัดดังและเก่าแก่  ความเสียหาย  ส่วนพระประธานที่เป็นปูน ได้ถูกไฟไหม้เสียจนหมดเช่นกัน เหลือเพียงพระประธานปูนองค์ใหญ่องค์เดียวที่ถูกไฟไหม้ไม่หมดนั่งอยู่กลางอุโบสถมีเพียงแขนด้านขวาหักหลุดไปเท่านั้น ส่วนประกอบอื่นๆ ยังอยู่ครบ ส่วนความเสียหายอื่นๆ ภายในอุโบสถถูกไฟไหม้จนวอดหมดรวมทั้งหลังคาอุโบสถก็ถูกไฟไหม้จนวอดเช่นกัน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ประชาชนชาวบ้านได้ร่วมทำบุญ จัดบุญกฐิน มาตลอด ร่วมทำบุญสร้างอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งใช้ระยะเวลา เกือบ 7 ปี  ปัจจุบัน อุโบสถ หลังใหม่ ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว  และในทริปนี้  จึงได้จัดทริปมาร่วมทำบุญยกช่อฟ้า พร้อมสรงน้ำพระ พระพุทธสิหิงค์ บุญกุศลที่เราได้ร่วมสร้างจงผลให้ทุกๆท่านมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวง 

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 6)  หลังอาหารทำน่านเดินทาง เที่ยวชม วัดเขาขุนพนม เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีถ้ำที่มีกำแพงก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายครามจีน ในถ้ำมีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงมาพำนักและถือศีลในถ้ำแห่งนี้ ด้านหน้าวัดเป็นที่ตั้งของบ่น้ำทิพย์โบราณเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักสิทธิ์ ที่ถวายแด่พระเจ้าตากสินไว้ใช้ส่วนพระองค์ โดยภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ อาทิเช่น อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ลักษณะของวัดมีตัวกำแพงก่ออิฐถือปูนและใบเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายครามจีน ส่วนภายในถ้ำซึ่งอยู่ด้านบนและต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 250 ขั้นนั้น มีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด กล่าวสำหรับประวัติวัดนี้ มีการสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสินเสด็จหนีมาผนวชจนสวรรคต) แต่บางท่านก็ว่าเป็นที่พักผ่อนสำหรับเจ้าหญิงเกศิณีธิดาของเจ้านราสุริยวงศ์ เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ช่วง พ.ศ. 2312-2319

สมควรกับเวลา นำท่านเดินทางต่อยังวัด  วัดเจดีย์ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีชื่อเสียงโด่งดังเกี่ยวกับ “ไอ้ไข่” เด็กวัดที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้ที่มาเยือนวัดเจดีย์มักบนบานขานกล่าวกับ “ไอ้ไข่” ขอให้ตัวเองสมปรารถนาในสิ่งหนึ่งสิ่งใดส่วนใหญ่เชื่อว่า “ไอ้ไข่” สามารถดลบันดาลให้เป็นอย่างใจนึก มีผู้คนเลื่อมใสศรัทธามากมายและมักได้ตามที่บนบานไว้  วัดเจดีย์ไอ้ไข่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลฉลอง มีการเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่า สถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้น เมื่อก่อน หลวงปู่ทวด พระเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้ ได้เดินธุดงค์และมาปักกลดอยู่ในบริเวณนั้น ส่วนไอ้ไข่นั้น เชื่อว่าเป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ 9-10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ซึ่งติดตามหลวงปู่ทวด เมื่อหลวงปู่ทวดมาถึงสถานที่ดังกล่าว กลับพบว่ามีทรัพย์สมบัติและศาสนสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติดังกล่าว วิญญาณดวงนี้เฝ้าดูแลปกปักรักษาทรัพย์สินของแผ่นดินและอยู่ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมา จากศรัทธาที่ผู้คนต่างเชื่อกันว่า “ขอได้ ไหว้รับ” ทำให้มีผู้คนมากราบไหว้ไอ้ไข่หรือตาไข่กันเป็นจำนวนมากเพื่อขอพรและโชคลาภ และนิยมมาแก้บนด้วยรูปไก่ชน ชุดทหาร หนังสติ๊ก ของเล่นต่าง ๆ เป็นต้น

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่อำเภอสิชล

18.00 น. : รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7.)  หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนอิสระตามอัธยาศัย

วันที่ 4
ชล – สุราษฎร์ธานี - ชุมพร – ประจวบคีรีขันธ์ - กรุงเทพฯ

06.00 น. : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก (มื้อที่ 8.)

08.00 น. : นำท่านออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ วันนี้นั่งรถยาวข้ามจังหวัด  ระหว่างทางอาจารย์กอล์ฟมีเรื่องเราให้ฟังเพลินระหว่างการเดินทาง

เที่ยง  :  รับประทานอาหารกลางวัน ระหว่าง ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 9.)  หลังอาหารให้ท่านได้พักสายตา งีบหลับ

บ่าย : อาจารย์กลอ์ฟ นำเล่นเกมส์ ลับสมองระหว่างทางแวะซื้อของฝาก

เย็น : รับประทานอาหารเย็นระหว่างทาง ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 10)

20.00 น. : เวลาโดยประมาณ คาดว่า น่าจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ

จุดแวะส่งท่านลูกค้า จุดที่ 1.     บิ๊กซี พระราม 2. (ฝั่งขาเช้ากรุงเทพฯ)

จุดแวะส่งท่านลูกค้า จุดที่ 2. ปั้ม ปตท.วิภาวดี

จุดแวะส่งท่านลูกค้า จุดที่ 3. ปั้มเชลส์ ฝั่งตรงข้าม ปั้ม ปตท.วิภาวดี

จุดแวะส่งท่านลูกค้า จุดที่ 4. ห้างตั้งฮั้วเส็ง ถนนสิรินธร (ฝั่งขาออก)

ส่งทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดนสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ อิ่มบุญ กันถ้วนหน้า

เงื่อนไข
  • พัก 3 คืน พร้อมอาหารเช้า  ( พักห้องละ 2 ท่าน )
  • ค่าธรรมเนียม และค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ระบุในรายการ
  • อาหารตามที่ระบุไว้ในรายการ  รวม 10 มื้อ
  • ประกันการเดินทางท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • มัคคุเทศก์และสต๊าฟ ดูแลการเดินทาง ตลอดการเดินทาง
  • ค่าอาหารเที่ยง 1 มื้อ , ค่าอาหารเย็น 1 มื้อ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่ม อาหารนอกเหนือรายการ
  1. เป้าหมายกำหนดเดินทาง 1 บัส / 30-40 ท่าน หากไม่เต็มตามจำนวนที่กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง เป็นรถตู้ หรือ มินิบัส หรือเลือกไปรวมกับบริษัทพัทธมิตรที่รายการเดินทางเหมือนกัน
  2. ที่นั่งจัดตามลำดับการจองและโอนมัดจำ เท่านั้น ขอสงวนที่นั่งให้กับท่านที่โอนจองมาแล้วเท่านั้น
  3. รายการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์และเหตุการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ ผลประโยชน์ของท่านลูกค้าคือสำคัญ
  4. อาหารแต่ละมื้อ จัดเป็นเซ็ทลงโต๊ะ ท่านละ 8 ท่าน เมนูอาหารเป็นเมนูปกติที่หลากหลายตามท้องถิ่น  หากท่านใด ทานอาหารเจ หรือทานมังสวิรัติ หรือทานอาหารที่นอกเหนือจากที่จัดไว้ให้  ท่านต้องแจ้งล่วงหน้า และขำระเงินส่วนต่างหากกับทางร้านอาหารโดยตรง